3 นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล สร้างแรงบันดาลใจเยาวชนเอเชียในงาน ASC 2025

นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล

สร้างแรงบันดาลใจเยาวชนเอเชียในงาน ASC 2025

     ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงาน Asian Science Camp 2025 (ASC 2025) อย่างยิ่งใหญ่ เป็นการหวนกลับมาเป็นเจ้าภาพในรอบ 10 ปี โดย มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาฯ (สอวน.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ผนึกกำลังร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม - 6 สิงหาคม 2568  ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 และ เทคโนธานี มทส. การจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา  โดยมีเยาวชนจำนวน 269 คนจาก 21 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงเยาวชนไทยที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมจำนวน 68 คน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ร่วมกิจกรรมบรรยายพิเศษ และสร้างเครือข่ายวิชาการระดับนานาชาติ

 


     สำหรับไฮไลต์สำคัญของงานครั้งนี้ คือการดึง 3 นักวิทยาศาสตร์ระดับโลก เจ้าของรางวัลโนเบล ที่เดินทางมาถ่ายทอดองค์ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจอย่างใกล้ชิดแก่เยาวชนไทยและต่างชาติด้วยตนเอง ได้แก่

 

·       Prof. Sir Gregory P. Winter

Nobel Prize in Chemistry 2018

นักชีวเคมีจากสหราชอาณาจักร ผู้บุกเบิกเทคนิค Phage Display สำหรับพัฒนาแอนติบอดีสังเคราะห์ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการผลิต ยาชีวภาพสมัยใหม่ เช่น Adalimumab (Humira) ที่ใช้รักษาโรคภูมิคุ้มกันและโรคข้ออักเสบทั่วโลก การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของวงการการแพทย์และเภสัชกรรมยุคใหม่อย่างสิ้นเชิง

 

 

·       Prof. Dr. Drew Weissman

Nobel Prize in Physiology or Medicine 2023

นักภูมิคุ้มกันวิทยาชาวอเมริกัน ผู้ร่วมค้นพบการดัดแปลง นิวคลีโอไซด์ใน mRNA ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างโปรตีน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของ วัคซีน COVID-19 ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA เช่น Pfizer-BioNTech และ Moderna งานวิจัยนี้ได้ปูทางสู่การพัฒนาวัคซีนและการรักษาโรคด้วย mRNA ในอนาคต

 

·       Prof. Dr. Takaaki Kajita

Nobel Prize in Physics 2015

นักฟิสิกส์จากญี่ปุ่น ผู้ค้นพบปรากฏการณ์ Neutrino Oscillations หรือการสลับสถานะของนิวทริโน ซึ่งแสดงว่านิวทริโนมีมวล ขัดแย้งกับทฤษฎีมาตรฐานดั้งเดิม และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการฟิสิกส์อนุภาค โดยการค้นพบนี้เกิดจากการทำงานกับเครื่องตรวจจับ Super-Kamiokande ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ในจักรวาลวิทยา

 

 

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับการกระจายโอกาสทางการศึกษา การเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ไปยังพื้นที่บริการการศึกษาโดยรอบ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาคพื้นที่ “นครชัยบุรินทร์” ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ด้วยการจัดพื้นที่ภายในอาคารสุรพัฒน์ 2 เทคโนธานี เปิดโอกาสให้นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา กว่า 1,000 คน ได้เข้าร่วมรับฟังการบรรยายปาฐกถา และพบปะกับนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล ในวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ด้วย ถือเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับโอกาสทางวิทยาศาสตร์ การสร้างแรงกระตุ้นความสนใจทางวิทยาศาสตร์ให้กับนักเรียน เยาวชนในระดับภูมิภาค และนับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ มทส. ได้ร่วมเป็นเวทีเชื่อมต่อวิทยาศาสตร์ระดับโลกสู่ภูมิภาค เสริมสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทย และยกระดับบทบาทของมหาวิทยาลัยไทยในเวทีวิทยาศาสตร์นานาชาติ

 

ส่วนประชาสัมพันธ์

30 กรกฎาคม 2568


ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง