มทส. ร่วมประชุมวิชาการด้านมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม และพัฒนาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในออสเตรเลีย

ศูนย์บรรณสาร
มทส. ร่วมประชุมวิชาการด้านมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม
และพัฒนาความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในออสเตรเลีย
 
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในฐานะนายกสมาคมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สารัมภ์ บุญมี รองผู้อำนวยการเทคโนธานี ฝ่ายบริหารจัดการนวัตกรรม เข้าร่วมการประชุมทางวิชาการด้านมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม และพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 19 – 26 พฤศจิกายน 2565 ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
 
 
 
 
 
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ สมาคมพันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับสังคม (Engagement Thailand: EnT) ได้จัดโครงการเข้าร่วมการประชุมทางวิชาการด้านมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม จัดโดย Engagement Australia (EA) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และวิธีปฏิบัติที่ดีในการทำงานเพื่อสังคม ระหว่างนักวิชาการไทยและนักวิชาการออสเตรเลีย โดยมีคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยไทยเข้าร่วม ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ซึ่งมีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย การประชุมวิชาการ The 2022 Engagement Australia Conference ณ University of Technology Sydney (UTS) การพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของออสเตรเลียในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ด้าน Community and Business Engagement กับ City of Sydney ด้าน Global Leadership Program and PACE (Professional and Community Engagement) กับ Macquarie University ด้าน Circular Economy and Sustainability กับ University of Sydney ด้าน Times Higher Education (THE) World University Rankings กับ Western Sydney University ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของโลก ใน THE University Impact Ranking 
 
 
 
 
ตลอดจนเรียนรู้เรื่อง Carnegie Community Engagement Classification จากมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่เข้าร่วมโครงการนำร่อง ซึ่งได้นำกรอบแนวคิดในการระบุหรือบ่งชี้ความสำเร็จขั้นสูงสุดในการทำ Community Engagement ของสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกามาใช้ เพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำเอาหลักการนี้มาใช้กับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เพื่อยกระดับการทำงานด้านมหาวิทยาลัยเพื่อสังคมให้สามารถเทียบเคียงได้ในระดับสากล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการกำหนดและกำกับนโยบายของมหาวิทยาลัย ที่จะช่วยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และการดำเนินงานด้านพันธกิจสัมพันธ์ ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยสามารถทำงานด้านมหาวิทยาลัยเพื่อสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ทั้งยังนำไปสู่การจัดอันดับมหาวิทยาลัยในกลุ่ม THE Impact Ranking อีกด้วย
 
 
-----------------------
**


ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง