มทส. จับมือภาคเอกชน ศูนย์นวัตกรรมบ่มเพาะ และ บ.ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด สร้างแหล่งเรียนรู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีกัญชา ร่วมผลักดันห่วงโซ่การผลิตครบวงจร
มทส. จับมือภาคเอกชน ศูนย์นวัตกรรมบ่มเพาะ และ บ.ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด
สร้างแหล่งเรียนรู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีกัญชา ร่วมผลักดันห่วงโซ่การผลิตครบวงจร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส. ) จับมือองค์กรภาคธุรกิจมืออาชีพ ศูนย์นวัตกรรมบ่มเพาะ และ บ.ธนัทเฮิร์บ พาณิขย์ จำกัด สร้างคลัสเตอร์กัญชง-กัญชาพืชเศรษฐกิจใหม่ที่เข้มแข็งของประเทศ พร้อมยกระดับ มทส. เป็น ศูนย์นวัตกรรมแห่งการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกกัญชา ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อรวบรวมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และวิสาหกิจเพื่อสังคม ในการผลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข คิดค้นตำรับยา การใช้สารสำคัญในการพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย เพื่อการเข้าถึงของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส. ) โดย รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดี ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือทางวิชาการ กับ ศูนย์บ่มเพาะด้านนวัตกรรม โดย นายณัฐชรัตน์ กฤตธน และ บริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด โดย นายธนัท เชี่ยวชาญอักษร เพื่อประสานความร่วมมือวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกัญชาคุณภาพเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ขยายผลการแปรรูปผลิตภัณฑ์ สร้างฐานพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ ผ่านเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และสร้างวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอำรุง คณบดีสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นันทกร บุญเกิด นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญ มทส. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของทั้งสามฝ่ายเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 ณ ห้องสารนิเทศ อาคารบริหาร มทส.
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดี มทส. เปิดเผยว่า “จากการที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินโครงการวิจัย “การผลิตกัญชาเชิงคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์” นำทีมโดย ศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอำรุง คณบดีสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นันทกร บุญเกิด และคณะ เพื่อสามารถตอบโจทย์ความต้องการประเทศ ด้านงานวิจัยพัฒนานวัตกรรม ด้านการพัฒนากัญชาระดับคุณภาพ ที่สามารถพัฒนาต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืนสอดรับนโยบายของรัฐบาล จากความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานของมหาวิทยาลัยและศักยภาพของคณะนักวิจัย ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีการปลูกกัญชาสายพันธุ์ “ฝอยทองภูผายล” เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ถึงปัจจุบัน สามารถเก็บเกี่ยวกัญชาเป็นรุ่นที่ 3 เป็นที่ประจักษ์ชัดถึงผลผลิตกัญชาคุณภาพจากสวนเกษตร มทส. ว่าให้สารออกฤทธิ์สำคัญสูง และไม่มีสารโลหะหนักตกค้าง มีความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคผ่านการรับรองมาตรฐานโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงสามารถนำไปเป็นส่วนประกอบสำคัญ ในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยาแผนไทย และแผนปัจจุบันที่ผ่านมาได้ส่งมอบยังกรมการแพทย์แผนไทยฯ และมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นต้น อีกทั้งจากการประกาศปลดล๊อคกัญชาในส่วนที่ไม่เป็นสารเสพติด ประกอบด้วยใบ ลำต้น และรากกัญชา ได้ผลตอบรับสูงมากจากภาคเอกชนติดต่อขอนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อย่างหลากหลายในปัจจุบัน
สำหรับความร่วมมือทั้งสามฝ่ายในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยจะเป็นแหล่งเรียนรู้ถ่ายทอดด้านเทคโนโลยีการปลูกกัญชาอย่างครบวงจร เพื่อร่วมสร้างห่วงโซ่แห่งคุณค่าให้กับพืชเศรษฐกิจใหม่ คือ กัญชง และกัญชา รวมถึงพืชสมุนไพรอื่นๆ โดยในระยะแรก จะเป็นการสร้างกิจกรรมส่งเสริมการปลูกและการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีการปลูก การพัฒนาสายพันธุ์กัญชาที่มีคุณภาพให้ได้ปริมาณสารสำคัญสูง การสกัดกลั่นสารสำคัญ การสร้างมาตรฐานการผลิต รวมทั้งผลักดันเทคโนโลยีนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข การคิดค้นตำรับยา และการใช้สารสำคัญในการพัฒนาคุณภาพวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ การพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกัญชง-กัญชา และสมุนไพรทางการแพทย์ได้อย่างปลอดภัย โดยจะใช้ประสบการณ์ด้านการสร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน จากศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรม และด้านเครือข่ายวิสาหกิจเพื่อสังคม จากบริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด และบริษัทในเครือ ผ่านการใช้กลไกความร่วมมือกับองค์กรธุรกิจมืออาชีพทั้งในและต่างประเทศ ประสานความร่วมมือสร้างคลัสเตอร์กัญชง-กัญชาคุณภาพ ที่ความเข้มแข็งของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การจับคู่กับหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร กลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคม หน่วยวิจัย และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
จากนี้ไป สวนเกษตร มทส.จะถูกยกระดับเป็น “ศูนย์นวัตกรรมแห่งการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยี” ในระดับต้นน้ำ เกิดเป็น “คลัสเตอร์กัญชง-กัญชา” ที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศ ในระดับกลางน้ำจะเริ่มการขยายพื้นที่แปลงกัญชงและกัญชา ขนาดใหญ่ภายในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในรูปแบบ “Contract Farming” คือ สร้างภาคการผลิต-การแปรรูป-การสกัดกลั่นสารสำคัญจากพืชกัญชงและกัญชา ภาคการตลาดแรงงาน และไปสู่ภาคเศรษฐกิจ โดยการแปรรูปผลผลิตไปสู่ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่ม และความต้องการของตลาดโลก ในระดับปลายน้ำ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเครื่องมืออุปกรณ์ขั้นสูงของมหาวิทยาลัยในการสกัดกลั่นสารสำคัญ เช่น สาร THC, CBD, CBN, CBG ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด จะเกิดการต่อยอดสู่นวัตกรรมใหม่ที่เกิดจากงานวิจัยพัฒนาไปใช้อุตสาหกรรมทางการแพทย์ และการสาธารณสุข รวมไปถึงนวัตกรรมด้านงานบริการฟื้นฟูสุขภาพและชะลอวัย การขยายผลถึงการสร้างระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพครบวงจร รวมถึงภาคการผลิตและบริการ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศด้วย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ จึงถือเป็นมิติที่ก้าวกระโดดของพืชเศรษฐกิจใหม่ คือ กัญชง กัญชา และพืชสมุนไพรไทย จะเกิดเป็นระบบนิเวศความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัย ภาคธุรกิจเอกชน และ หน่วยส่งเสริมนวัตกรรม เป็นการสร้างกลไกร่วมผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนห่วงโซ่การผลิตอย่างแท้จริง”
ส่วนประชาสัมพันธ์ มทส.
7 พฤษภาคม 2564
buca escort
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
- มทส. เปิดตัวโครงการพัฒนาโมเดลชุมชนอุตสาหกรรมสุขภาวะฯ ชูเป้าหมายยกระดับสุขภาพคนวัยทำงานอย่างยั่งยืน 18 ธันวาคม 2568
- มทส. หนุนกระทรวง อว. ลงพื้นที่โคราช เดินหน้าขับเคลื่อน “อววน.” ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ชูบทบาท อว.ส่วนหน้า สู่ศูนย์กลางนวัตกรรมอีสานตอนล่าง 16 ธันวาคม 2568
- มทส. ทำหน้าที่ศูนย์สอบ TGAT–TPAT 2569 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสนามสอบโคราช–ชัยภูมิ สร้างความเชื่อมั่นมาตรฐานการจัดสอบ 15 ธันวาคม 2568
- มทส. จัดดนตรีในสวน: H.M. Song อว. บรรเลงเพลงของพ่อ 08 ธันวาคม 2568
- มทส. เจ้าภาพร่วมการประชุมเชิงวิชาการ The 3rd International Conference on Advanced Air Mobility Systems (ICAAMS-3) 02 ธันวาคม 2568
- ตรวจพื้นที่เตรียมการรับเสด็จฯ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร 26 พฤศจิกายน 2568
- มทส. จับมือ วิคเตอร์ สปอร์ตส์ ส่งเสริมการพัฒนากีฬาแบดมินตัน 25 พฤศจิกายน 2568
- มทส. จัดอบรม “ความเข้าใจและรับมือกับสภาวะทางอารมณ์ในยุค AI” รอบที่ 2 24 พฤศจิกายน 2568
- มทส. จับมือ อำพลฟูดส์ ร่วมกันพัฒนาสมรรถนะนักศึกษาผ่านการปฏิบัติงานจริง เตรียมพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน 19 พฤศจิกายน 2568
- มทส. เตรียมพร้อมรับมือกับสภาวะทางอารมณ์ในยุค AI 19 พฤศจิกายน 2568


