มทส. จัด จิบกาแฟ แลกัญ พร้อมโชว์ผลงานวิจัย และนวัตกรรมมุ่งสู่ Korat Smart City

ศูนย์บรรณสาร
(วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565) รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) พร้อมคณะผู้บริหาร มทส. ให้การต้อนรับ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งให้เกียรติเป็นประธานในงานสภากาแฟ มทส. “จิบกาแฟ แลกัญ” จัดขึ้น  ณ ฟาร์มกัญชา มทส.
.
โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในจังหวัดนครรราชสีมาร่วมงาน เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น และประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน และเข้าชมนิทรรศการงานวิจัย และนวัตกรรมที่โดดเด่น ที่สามารถเชื่อมโยงกับการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมาสู่การเป็น “Korat Smart City”
 
 
 
.
รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส. เผยว่า “สภากาแฟ มทส." ในครั้งนี้ ได้เปิดพื้นที่ ฟาร์มกัญชา มทส. หรือ SUT Cannabis Hub ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการวิจัย “การผลิตกัญชาเชิงคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และเชิงพาณิชย์” โดยมีทีมนักวิจัยจากสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตรเป็นแกนหลัก ถือได้ว่าประสบความสำเร็จทั้งด้านวิจัยและนวัตกรรมอย่างครบวงจร ทั้งด้านการพัฒนากัญชาคุณภาพที่สามารถพัฒนาต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เกิดเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูก บำรุงรักษา การเก็บเกี่ยวผลผลิต รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ 
 
.
 
นอกจากนี้ ยังมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาล มทส. ทุกบ่ายวันจันทร์ เพิ่มโอกาสเข้าถึงกัญชาเพื่อการรักษาโรคให้แก่ประชาชน การเปิดโรงสกัดกลั่นน้ำมันกัญชา สามารถสกัดสารออกฤทธิ์สำคัญ แยกสาร CBD และ THC มาตรฐานระดับสากลในระดับ Medical Grade นับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของ มทส. ที่ได้เชื่อมโยงนโยบายจากภาครัฐ ขับเคลื่อนสู่วิสาหกิจชุมชน เป็นที่พึ่งของชุมชน สังคม และชาวจังหวัดนครราชสีมาอย่างแท้จริง ก้าวสู่ “การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งนวัตกรรมและความยั่งยืน Innovation & Sustainable University” ภายในปี ค.ศ.2025 ตามที่มุ่งหวังไว้
.
 
 
พร้อมกันนี้ มหาวิทยาลัยยังได้จัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมเด่น ซึ่งให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัดนครราชสีมาไปด้วยกัน โดยการสนองรับแผน “Korat Smart City” พัฒนาเมืองอัจฉริยะทั้ง 7 ด้าน ประกอบด้วย Smart Mobility, Smart Environment, Smart Energy, Smart Living, Smart Economy, Smart People และ Smart Governance โดยนำเยี่ยมชมนวัตกรรมด้านพลังงานทางเลือก ได้แก่ สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก แบบโซลาร์ออฟกริด ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีการฉุดลากและยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และพลังงานทางเลือกจากแสงอาทิตย์ชนิดลอยน้ำ (Solar Floating)
 
 
 
นอกจากนี้ ยังมีหลายโครงการวิจัยที่คณาจารย์ มทส. ได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ PM 2.5 เครื่องตรวจจับและฟอกอากาศ รถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า และล่าสุดทีมนักวิจัย ANSEE Khao Yai โครงการวิจัยสำหรับส่งเสริมพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในพื้นที่มรดกโลกผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ได้พัฒนานวัตกรรมหลากหลายทั้งด้านจัดการเส้นทางท่องเที่ยว การนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนมาช่วยลดการใช้พลังงานบนเขาใหญ่ ระบบโซลาเซลล์และระบบกักเก็บพลังงาน รถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า ระบบการจัดการขยะและโรงเรือนพักขยะอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและ Carbon Footprint กล้องตรวจจับและเฝ้าระวังสัตว์ป่า การพัฒนาวิทยากรดูดาวชุมชน และ Dark Sky Community การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการจัดการ เป็นต้น”
 



 
ส่วนประชาสัมพันธ์
22 กุมภาพันธ์ 2565


ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง