2 รมว. พลังงาน – วิทย์ฯ เยี่ยมชมการจัดการขยะชุมชนแบบครบวงจรแบบกระจายศูนย์ มทส. พอใจงานวิจัยสอดรับ Thailand 4.0 ตอบโจทย์สังคม

2 รมว. พลังงาน – วิทย์ฯ เยี่ยมชมการจัดการขยะชุมชนแบบครบวงจรแบบกระจายศูนย์ มทส.
พอใจงานวิจัยสอดรับ Thailand 4.0 ตอบโจทย์สังคม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เยี่ยมชมความคืบหน้าผลการดำเนินงานโครงการนำร่องการจัดการขยะชุมชนแบบครบวงจรแบบกระจายศูนย์ ร่วมกับ การวิจัยและพัฒนาระบบกักเก็บไฟฟ้าของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) อธิการบดี เผยแสดงศักยภาพและความสำเร็จในการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถปรับแปลง ถ่ายทอด และพัฒนาเทคโนโลยี จากการนำงานวิจัยและนวัตกรรมไปแก้ไขปัญหาของสังคมได้จริง ทั้งยังสอดรับกับนโยบายThailand 4.0 การขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาสังคมด้วยนวัตกรรม ซึ่งได้รับคำชื่นชมและพร้อมจะเป็นต้นแบบต่อไป
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2560 พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงาน โครงการนำร่องการจัดการขยะชุมชนแบบครบวงจรแบบกระจายศูนย์ ร่วมกับ การวิจัยและพัฒนาระบบกักเก็บไฟฟ้า ของ มทส. ภายใต้แนวคิดการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะด้วยอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน “MSW 4.0” ที่ได้รับงบประมาณวิจัยและพัฒนาจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน
โดยภาคเช้า ได้เยี่ยมชมความคืบหน้า ระบบจัดการขยะศูนย์เทศบาลเมืองสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วีรชัย อาจหาญ ผู้อำนวยการเทคโนธานี ผู้แทน มทส. นายยงยุทธ ป้อมเอี่ยม นายอำเภอสีคิ้ว นายสุรินทร์ แสงไทยทวีพร พลังงานจังหวัดนครราชสีมา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เจ้าหน้าที่ และประชาชน ให้การต้อนรับ ทั้งนี้เทศบาลเมืองสีคิ้วเป็น 1 ใน 4 ของศูนย์จัดการขยะแบบครบวงจร ในจังหวัดนครราชสีมา เทศบาลเมืองสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว เทศบาลเมืองเมืองปัก อำเภอปักธงชัย เทศบาลตำบลด่านขุนทด อำเภอด่านขุนทด และเทศบาลตำบลแชะ อำเภอครบุรี) ภายใต้โครงการนำร่องการจัดการขยะชุมชนแบบครบวงจรแบบกระจายศูนย์ ที่นำร่องส่งเสริมสาธิตให้ใช้นวัตกรรมระบบจัดการขยะแบบครบวงจรของ มทส. ในปี 2558 ปัจจุบันศูนย์จัดการขยะภายใต้โครงการฯ ทั้ง 4 ศูนย์นี้ ช่วยบรรเทาแก้ปัญหาขยะโคราชได้กว่า 180 ตัน/วัน ทั้งนี้ ระบบจัดการขยะศูนย์ ทม. สีคิ้ว รองรับปริมาณขยะจากชุมชนในพื้นที่โดยรอบ บริเวณของเทศบาลเมืองสีคิ้วจำนวน 25 ตันต่อวัน เป็นการจัดการขยะอย่างถูกหลักวิชาการและสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้เกิดรูปแบบการจัดการขยะที่ยั่งยืน โดยมีกระบวนการสำคัญในการน ขยะมูลฝอยมาแปรรูปให้เป็นเชื้อเพลิงขยะ (RDF) และน้ำมันไพโรไลซิส (Pyrolysis Oil) กำลังผลิต 5,000 ลิตร/วัน ซึ่งน้ำมันดิบจากขยะนี้จะถูกนำไปกลั่นเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อใช้ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ต่อไป
ภาคบ่าย ได้เข้าเยี่ยมชมความคืบหน้าผลการดำเนินงาน ศูนย์สาธิตการผลิตพลังงานจากของเสียและขยะชุมชน ต้นแบบโรงไฟฟ้าพลาสมาแก๊สซิฟิเคชั่นจากเชื้อเพลิงขยะ และการวิจัยพัฒนาระบบกักเก็บไฟฟ้า ของ มทส. โดยมี ศ.ดร. สันติ แม้นศิริ รักษาการแทนรองอธิการบดี ฝ่ายวิชาการและพัฒนาความเป็นสากล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วีรชัย อาจหาญ ผู้อำนวยการเทคโนธานี มทส. พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานให้การต้อนรับ และนำเยี่ยมชม
ศูนย์สาธิตการผลิตพลังงานจากของเสียและขยะชุมชน มทส. ดำเนินการจัดการของเสียและขยะเพื่อผลิตเป็นพลังงานแบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการรับขยะมูลฝอยเข้ามาจัดการ โดยปัจจุบัน ศูนย์ มทส. รับขยะมูลฝอยจากทั้งภายในมหาวิทยาลัย รวมถึงพื้นที่ภายนอกภายใต้การดูแลของเทศบาลตำบลสุรนารี ปริมาณ 20 ตัน/วัน นอกจากนี้ยังทำหน้าที่รับเชื้อเพลิงขยะ (RDF) จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้โครงการนำร่องการจัดการขยะ ชมชนแบบครบวงจรแบบกระจายศูนย์ทั้ง 4 แห่ง มาเข้าสู่กระบวนการผลิตไฟฟ้าด้วยระบบพลาสมาแก๊สซิฟิเคชั่น ขนาด 1000 kW (1 เมกะวัตต์) เพื่อผลิตไฟฟ้าป้อนเข้าใช้ในระบบของมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังมีระบบกลั่นน้ำมันไพโรไลซิสจากพลาสติกขนาด 20,000 ลิตร ซึ่งรองรับน้ำมันไพโรไลซิสจากทั้ง 4 แห่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยใช้การกลั่นลำดับส่วนเพื่อให้ได้น้ำมันสำเร็จรูปเพื่อใช้ภายในกิจการภายในมหาวิทยาลัยอย่างครบวงจร
โรงไฟฟ้าพลาสมาแก๊สซิฟิเคชั่น โดยใช้เชื้อเพลิงจากขยะขนาด 1,000 kW (1 เมกะวัตต์) ของศูนย์สาธิตการผลิตพลังงานจากของเสียและขยะชุมชน มทส. เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีพลาสมาทางความร้อนชั้นสูงร่วมกับระบบแก๊สซิฟิเคชั่น สามารถควบคุมอุณหภูมิในเตาเผาให้สูงได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการการจัดของเสียได้ดี โดยเทคโนโลยีพลาสมาอาร์ค ซึ่งอาศัยหลักการปล่อยกระแสไฟฟ้าเพื่อให้ความร้อนกับก๊าซ เช่น ก๊าซออกซิเจน (O2) ก๊าซไนโตรเจน (N2) และอากาศ (Air) โดยเมื่อก๊าซได้รับพลังงานและร้อนขึ้น จึงส่งผลให้โมเลกุลขอก๊าซบางส่วนแตกตัว แปรสภาพจากสภาวะก๊าซ ไปสู่สถานะพลาสมา เกิดเป็นพลังงานที่มีอุณหภูมิ สูงมากกว่า 2,000 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมินี้เพียงพอสำหรับใช้ในการ กำจัดขยะมูลฝอย รวมไปถึงขยะติดเชื้อซึ่งมีองค์ประกอบหลายหลาย และมีความแปรปรวน ของคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีสูง ทั้งนี้เมื่อนำเทคโนโลยีพลาสมาอาร์ค มาใช้ร่วมกับระบบการเผาไหม้แบบแก๊สซิฟิเคชั่น ซึ่งเป็นระบบป้อนอากาศเข้าไปเพียงร้อยละ 30 ของความต้องการในปฎิกิริยาสันดาปทำให้ได้ผลผลิตออกมาเป็นก๊าซสังเคราะห์ที่มีคุณภาพดีและเป็นก๊าซที่เผาไหม้ได้ (ก๊าซไฮโดรเจน มีเทน คาร์บอนมอนนอกไซด์) มีค่าความร้อนประมาณ 6-8 เมกะจูล/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบเครื่องยนต์ก๊าซ (Gas Engine Generator Set) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลพลอยได้จากโรงไฟฟ้าพลาสมาแก๊สซิฟิเคชั่น คือถ่านคาร์บอนที่สามารถเพิ่มมูลค่าต่อยอดโดยพัฒนาเป็นวัสดุพิเศษในการผลิตระบบกักเก็บไฟฟ้าได้ต่อไป
การผลิตระบบกักเก็บไฟฟ้าด้วยผงถ่านจากโรงไฟฟ้าพลาสมาแก๊สซิฟิเคชั่น เป็นการวิจัยและพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะมูลฝอย โดยมีการจัดแสดงในงาน ได้แก่ - ส่วนประกอบของการผลิตระบบกักเก็บไฟฟ้าด้วยผงถ่าน - กระบวนการผลิต ระบบกักเก็บไฟฟ้าด้วยผงถ่าน - แผนผังเครื่องจักรผลิต ระบบกักเก็บไฟฟ้าด้วยผงถ่าน - ตัวอย่างชิ้นงาน ตัวเก็บไฟฟ้าจากผงถ่าน - การพัฒนาและประยุกต์ใช้ ตัวเก็บไฟฟ้าจากผงถ่าน โดยโครงการนี้ถือเป็นการนำงานวิจัยมาต่อยอดให้ใช้ประโยชน์ได้จริง และยังผลักดันจนถึงปลายทาง ซึ่งผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ก่อให้เกิดต้นแบบการแปรรูปขยะเป็นพลังงาน ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขวิกฤตปัญหาขยะมูลฝอยของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจตามแนวนโยบาย Thailand 4.0
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะ ได้เข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของ ความคืบหน้าผลการดำเนินงาน ศูนย์สาธิตการผลิตพลังงานจากของเสียและขยะชุมชน ต้นแบบโรงไฟฟ้าพลาสมาแก๊สซิฟิเคชั่นจากเชื้อเพลิงขยะ และการวิจัยพัฒนาระบบกักเก็บไฟฟ้า ของ มทส. โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ รักษาการแทนอธิการบดี มทส. พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานให้การต้อนรับ จากนั้นเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) โดย ศาสตราจารย์ นาวาอากาศโท ดร.สราวุฒิ สุจิตจร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยบุคลากรสถาบันฯ ให้การต้อนรับด้วย
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ รักษาการแทนอธิการบดี มทส. เปิดเผยว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มทส. ได้แสดงศักยภาพและความสำเร็จในการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถปรับแปลง ถ่ายทอด และพัฒนาเทคโนโลยี จากการนำงานวิจัยและนวัตกรรมไปแก้ไขปัญหาของสังคมได้จริง ช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความยั่งยืน รอ งรับการเติบโตของเมืองและภาคการผลิต รวมถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งยังสอดรับกับนโยบายThailand 4.0 การขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาสังคมด้วยนวัตกรรม ซึ่งได้รับคำชื่นชมยินดีจากรัฐมนตรีทั้งสองท่าน ซึ่ง มทส. พร้อมจะเป็นต้นแบบและรับใช้สังคมต่อไป
ส่วนประชาสัมพันธ์
21 สิงหาคม 2560
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
- มทส. คว้า Silver Award พร้อมเงินรางวัล 70,000 บาท ในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025) 21 มิถุนายน 2568
- มทส. ติดอันดับ 9 ร่วม ของประเทศไทย จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก โดย QS World University Rankings 2026 20 มิถุนายน 2568
- มทส. ขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน อยู่ในอันดับ 11 ร่วมของไทย และกลุ่มอันดับที่ 401-600 ของโลก โดย THE University Impact Rankings 2025 20 มิถุนายน 2568
- มทส. ผ่านการขึ้นทะเบียนคลังหน่วยกิตในระดับอุดมศึกษา 19 มิถุนายน 2568
- นักศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร คว้าแชมป์ระดับประเทศ ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานฯ และโอกาสศึกษาดูงาน บริษัทเนสเล่ ประเทศสิงคโปร์ 17 มิถุนายน 2568
- อาจารย์ มทส. รับโล่เกียรติคุณ จาก BEDO นำความรู้และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพสู่ชุมชน 12 มิถุนายน 2568
- มทส.ส่งมอบโปรแกรมสนับสนุนการเรียนรู้และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และโรงเรียนนักเดินป่าระดับต้น เส้นทางเขาใหญ่-แก่งยาว 10 มิถุนายน 2568
- มทส. ต้อนรับและหารือความร่วมมือกับเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย 09 มิถุนายน 2568
- มทส. รับรางวัล CWIE ดีเด่นระดับชาติ ปี 2568 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงานอย่างต่อเนื่อง 06 มิถุนายน 2568
- อาจารย์ มทส. คว้าอันดับ 1 นักวิทยาศาสตร์ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของไทย ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด ด้านวัสดุศาสตร์ - ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี - ด้านเคมี โดย Research.com 28 พฤษภาคม 2568