มทส. เจ๋ง ติดท็อป 5 ม.ไทย 2 ปีซ้อนจากการจัดอันดับม.ชั้นนำของโลกโดย THE

มทส. เจ๋ง ติดท็อป 5 ม.ไทย 2 ปีซ้อนจากการจัดอันดับม.ชั้นนำของโลกโดย THE
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา Times Higher Education (THE) สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกชื่อดังจากประเทศอังกฤษ ได้เผยผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกประจำปี ค.ศ. 2016-2017 หรือ World University Rankings 2016 – 2017 อย่างเป็นทางการ ปรากฏว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ติดกลุ่มอันดับ 601-800 มหาวิทยาลัยชั้นนำโลก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยอยู่ร่วมกลุ่มกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี และถือได้ว่าเป็นกลุ่ม TOP5 ของประเทศ โดยมีมหาวิทยาลัยมหิดลได้เป็นอันดับหนึ่งของไทย อยู่ในกลุ่ม 501-600 มหาวิทยาลัยชั้นนำโลก
ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เปิดเผยว่า จากการประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ประจำปี 2016 – 2017 (World University Rankings 2016 – 2017) โดยTimes Higher Education หรือ THE สำนักจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกชื่อดังจากประเทศอังกฤษ ซึ่งจัดอันดับดังกล่าวเป็นปีที่ 13 ติดต่อกัน ล่าสุดได้ประกาศผลการจัดอันดับ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา ในปีนี้ THE จัดอันดับเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 800 อันดับ เป็น 980 อันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก และมีมหาวิทยาลัยจาก 79 ประเทศทั่วโลกได้รับการจัดอันดับในครั้งนี้และมีการกระจายตัวไปตามประเทศต่าง ๆ ดังที่แสดงในรูปที่ 1 ทั้งนี้มหาวิทยาลัยชั้นนำอันดับ 1 ของโลกยังคงเป็นของ University of Oxford ประเทศอังกฤษ สำหรับมหาวิทยาลัยของไทยได้รับการจัดอันดับเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งมีเพียง 7 แห่ง เพิ่มเป็น 9 แห่งที่ติดอันดับในครั้งนี้ โดยมีลำดับตามที่ปรากฏในฐานข้อมูลของ THE ดังนี้
1. มหาวิทยาลัยมหิดล อันดับที่ 501-600
2. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันดับที่ 601-800
3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันดับที่ 601-800
4. มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี อันดับที่ 601-800
5. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อันดับที่ 601-800
6. มหาวิทยาลันเกษตรศาสตร์ อันดับที่ 801+
7. มหาวิทยาลัยขอนแก่น อันดับที่ 801+
8. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อันดับที่ 801+
9. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อันดับที่ 801+
โดย มทส. ได้รับการจัดอยู่ในอันดับ 601-800 ของโลก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันและอยู่ในกลุ่ม TOP5 ของประเทศไทย นับเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจที่ มทส. ประสบความสำเร็จและขึ้นสู่การอันดับต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องแม้จะก่อตั้งมาเพียง 26 ปี และย้ำภาพความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยที่พร้อม มุ่ง Global Vision : Local Missions” สร้างสรรค์ความรู้คู่เคียงสังคม มุ่งสู่มาตรฐานสากล
สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำดังกล่าว ประกอบด้วย 5 ตัวชี้วัดและมีตัวชี้วัดย่อย พร้อมน้ำหนักในการคำนวณ ดังที่แสดงในรูปที่ 2 ซึ่งแตกต่างไปบ้างจากการจัดอันดับในปี 2015-2016 โดยประกอบด้วย
- การสอน (สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้) มีน้ำหนัก 30%
- การวิจัย (ปริมาณ รายได้ และชื่อเสียง) มีน้ำหนัก 30%
- การอ้างอิง (อิทธิพลของการวิจัย) มีน้ำหนัก 30%
- ความเป็นนานาชาติ (บุคลากร นักศึกษา การวิจัย) มีน้ำหนัก 7.5%
- รายได้จากภาคอุตสาหกรรม (การถ่ายโอนความรู้) มีน้ำหนัก 2.5%
รูปที่ 1 แผนที่การจัดอันดับมหาวิทยาลัย 75 ประเทศทั่วโลก
(ที่มา https://www.timeshighereducation.com/news/world-university-rankings-2016-2017-results-announcede)
รูปที่ 2 ตัวชี้วัดของ THE World University Rankings 2016 – 2017
(ที่มา https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/methodology-world-university-rankings-2016-2017)
จากการนำข้อมูลของคะแนนที่ได้ตามตัวชี้วัดของมหาวิทยาลัยไทยตาม THE World University Rankings 2016 – 2017 มาเปรียบเทียบดังที่แสดงในรูปที่ 3 จะเห็นได้ว่า มทส. ได้รับคะแนนที่ดีใน 3 ตัวชี้วัด ได้แก่ การสอน (สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้) การอ้างอิง (อิทธิพลของการวิจัย) และความเป็นนานาชาติ (บุคลากร นักศึกษา การวิจัย) ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพของการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยที่ได้มาตรฐานสากล และศักยภาพของคณาจารย์และบุคลากรในมหาวิทยาลัยในการผลิตผลงานวิจัยคุณภาพสูง
รูปที่ 3 คะแนนที่ได้ตามตัวชี้วัดของมหาวิทยาลัยไทยตาม THE World University Rankings 2016 – 2017
“ผลการจัดอันดับในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีและน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นว่า มทส. มีศักยภาพความเข้มแข็งทางด้านวิชาการในระดับสากล มีความสำเร็จที่ไม่เคยหยุดนิ่ง มีพัฒนาการที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 26 ปีแห่งการก่อตั้งมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังแสดงถึงความสำเร็จในการเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของไทย ที่ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก แต่อย่างไรก็ตามเพื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 ในก้าวต่อไปตามแผนพัฒนามหาวิทยาลัยระยะที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) มหาวิทยาลัยยังคงต้องมีการ "รุก รับ ปรับตัว" สู่ Thailand 4.0 มุ่งสู่ “มทส. 4.0 มหาวิทยาลัยแห่งนวัตกรรม” ที่พร้อมก้าวต่อไปเพื่อ “Global Vision : Local Missions” สร้างสรรค์ความรู้คู่เคียงสังคม มุ่งสู่มาตรฐานสากล เป็นแหล่งสร้างคนสร้างนวัตกรรม ผลิตบัณฑิตพร้อมทำงาน ที่มีความรู้ในวิชาชีพตรงตามความต้องการตลาดแรงงาน และสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อเป็นที่พึ่งของสังคมต่อไป” อธิการบดี มทส. กล่าวในที่สุด
ส่วนประชาสัมพันธ์ มทส.
22 กันยายน 2559
ข้อมูลการจัดอันดับเพิ่มเติม: https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/2017/world-ranking#!/page/0/length/25/sort_by/rank_label/sort_order/asc/cols/rank_only
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
- มทส. คว้า Silver Award พร้อมเงินรางวัล 70,000 บาท ในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025) 21 มิถุนายน 2568
- มทส. ติดอันดับ 9 ร่วม ของประเทศไทย จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก โดย QS World University Rankings 2026 20 มิถุนายน 2568
- มทส. ขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน อยู่ในอันดับ 11 ร่วมของไทย และกลุ่มอันดับที่ 401-600 ของโลก โดย THE University Impact Rankings 2025 20 มิถุนายน 2568
- มทส. ผ่านการขึ้นทะเบียนคลังหน่วยกิตในระดับอุดมศึกษา 19 มิถุนายน 2568
- นักศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร คว้าแชมป์ระดับประเทศ ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานฯ และโอกาสศึกษาดูงาน บริษัทเนสเล่ ประเทศสิงคโปร์ 17 มิถุนายน 2568
- อาจารย์ มทส. รับโล่เกียรติคุณ จาก BEDO นำความรู้และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพสู่ชุมชน 12 มิถุนายน 2568
- มทส.ส่งมอบโปรแกรมสนับสนุนการเรียนรู้และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และโรงเรียนนักเดินป่าระดับต้น เส้นทางเขาใหญ่-แก่งยาว 10 มิถุนายน 2568
- มทส. ต้อนรับและหารือความร่วมมือกับเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย 09 มิถุนายน 2568
- มทส. รับรางวัล CWIE ดีเด่นระดับชาติ ปี 2568 ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงานอย่างต่อเนื่อง 06 มิถุนายน 2568
- อาจารย์ มทส. คว้าอันดับ 1 นักวิทยาศาสตร์ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของไทย ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด ด้านวัสดุศาสตร์ - ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี - ด้านเคมี โดย Research.com 28 พฤษภาคม 2568