35 ปี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

สร้างสรรค์นวัตกรรมและความยั่งยืน พร้อมเป็นที่พึ่งและรับใช้สังคม

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ครบ 35 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 ภายใต้การบริหารและดำเนินนโยบาย SUT 2025 ของ รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มาครบ 4 ปี ในการขับเคลื่อนไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งนวัตกรรมและความยั่งยืน (Innovation & Sustainable University) เปลี่ยนผ่านจากมหาวิทยาลัยแห่งการวิจัยเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยรับใช้สังคมอย่างมั่นคง

ผลสัมฤทธิ์การดําเนินงานภายใต้แนวนโยบาย SUT 2025

มทส. เป็นมหาวิทยาลัยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นสถาบันอุดมศึกษาหลักในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีภารกิจ "3 สร้าง" ได้แก่ สร้างคน สร้างความรู้ และสร้างนวัตกรรม นับตั้งแต่ผมเข้ารับตำแหน่งอธิการบดีเมื่อปี 2564 ได้เสนอนโยบาย SUT 2025 เพื่อขับเคลื่อนสู่ "มหาวิทยาลัยแห่งนวัตกรรมและความยั่งยืน" พัฒนาใน 3 มิติหลัก ได้แก่ การพัฒนากำลังคนในอนาคต (Manpower for the Future) การวิจัยและนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (Impactful Research and Innovation) และการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ต่อยอดการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มีผลสัมฤทธิ์สำคัญ ๆ อาทิ

การพัฒนาองค์กรและการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ มทส. ผ่านการตรวจประเมินคุณภาพระดับ 300 คะแนน ตามโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ EdPEx300 ระดับสถาบัน ในปี 2567 และพร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้การรับรองระดับคุณภาพที่สูงขึ้น เช่น TQC หรือ TQC Plus

ผลการรับนักศึกษาใหม่ได้เกินเป้า จากการประชาสัมพันธ์หลักสูตรเชิงรุกอย่างต่อเนื่องและการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียน 

การพัฒนาคุณภาพหลักสูตร สำนักวิชาแพทยศาสตร์ผ่านการประเมินเพื่อรับรองหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2567) และเพิ่มศักยภาพในการรับนักศึกษาเป็น 104 คน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2568 สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ ได้รับการรับรองสถาบันการศึกษาวิชาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต เป็นเวลาสูงสุด 5 ปีการศึกษา ถึงปีการศึกษา 2571 จากสภาการพยาบาล การพัฒนาหลักสูตรตามเกณฑ์คุณภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดย สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ กำหนดให้ใช้เกณฑ์ ABET/TABEE และสำนักวิชาที่ใช้เกณฑ์ AUN QA ถือเป็นนโยบายหลักที่สำคัญในการยกระดับมาตรฐานการศึกษาตามมาตรฐานสากล รวมถึงพัฒนาระบบคลังหน่วยกิตรองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ด้านคุณภาพบุคลากร มีคณาจารย์และบุคลากรสายสนับสนุนรวมกว่า 360 คน ได้รับการรับรองวิทยฐานะตามกรอบมาตรฐานวิชาชีพด้านการสอนของสหราชอาณาจักร หรือ UK Professional Standard Framework (UKPSF) คณาจารย์ มทส. ได้รับรางวัล “อาจารย์ต้นแบบด้านการสอน” จาก สมาคมเครือข่ายการพัฒนาวิชาชีพอาจารย์และองค์กรระดับอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย (ควอท) 6 ปีติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2563

นอกจากนี้ ยังมีคณาจารย์และนักวิจัยที่ได้รับรางวัลจากองค์กรต่าง ๆ อาทิ รางวัลการวิจัยแห่งชาติ โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รางวัลและทุนวิจัยจากมูลนิธิโทเร เพื่อการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ ประเทศไทย (TTSF) โครงการทุนวิจัยลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” ล่าสุดจากการจัดอันดับนักวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2025 (Best Scientists in Thailand 2025) โดย Research.com อาจารย์ มทส. คว้าอันดับ 1 ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี อันดับ 3 และอันดับ 5 ด้านวัสดุศาสตร์ เป็นต้น

ความเป็นเลิศด้านสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน (CWIE) มทส. ได้รับรางวัลผลงาน CWIE ดีเด่นระดับชาติ มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในปี 2568 สามารถคว้า 5 รางวัลดีเด่นระดับชาติ และที่น่าภาคภูมิใจ คือ รางวัลสถานศึกษาดำเนินการด้าน CWIE ดีเด่น ถือเป็นการยืนยันถึงความเข้มแข็งด้านนี้

ความเข้มแข็งด้านการวิจัยและพัฒนา มทส. มีจำนวนผลงานวิจัยตีพิมพ์ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่น่าภาคภูมิใจ คือ มีอัตราส่วนจำนวนผลงานวิจัยตีพิมพ์ต่อจำนวนอาจารย์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีอัตราส่วนจำนวนผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารคุณภาพสูงระดับ Q1 หรือ T1 ต่อจำนวนอาจารย์สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม การพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการสู่วิสาหกิจเริ่มต้น/วิสาหกิจนวัตกรรม ร่วมกับ โครงการจัดตั้งสถานพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการสำหรับนักศึกษา (SEDA) และเทคโนธานี มีการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาของมหาวิทยาลัย รองรับ Startup/Spin-off ของคณาจารย์และนักศึกษาที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นทุกปี มีการร่วมลงทุนกับบริษัทต่างชาติ เช่น Origgin จากสิงคโปร์ รวมถึงความร่วมมือกับบริษัทของศิษย์เก่าอีกด้วย

ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบต่อสังคม การพัฒนาศูนย์วิจัยระดับ Center of Excellence กว่า 10 แห่ง และหน่วยวิจัยกว่า 40 หน่วย ในการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน มีโครงการเด่น ๆ อาทิ ANSEE Khao Yai หรือโครงการวิจัยวัสดุนาโนขั้นสูงสำหรับส่งเสริมพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในพื้นที่มรดกโลกผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ โครงการที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศรางวัลสุดยอดมหาวิทยาลัยในเอเชีย THE Awards Asia ในช่วงปี 2023 – 2025 ได้แก่ สาขาความเป็นผู้นําด้านสิ่งแวดล้อม จากโครงการ ANSEE Khao Yai "นวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่เป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" สาขาความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม จากโครงการ “Smart Trail คลองปลากั้ง 60 ปี มิตรภาพไทย-แคนาดา” เปิดเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเชิงนิเวศแห่งแรกของ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ สาขาโครงการวิจัยแห่งปี จากโครงการ “ชุมชนนวัตกรรมผ้าไหมโคราช” ที่นําเทคโนโลยีดิจิทัลและทักษะความเป็นผู้ประกอบการไปปรับแปลงและถ่ายทอดให้กับชุมชนผ้าไหมโคราช เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสาขาโครงการวิจัยแห่งปี จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม "วัสดุมวลเบาเชิงวิศวกรรม” นำวัสดุเหลือใช้จากภาคอุตสาหกรรมหรือบรรจุภัณฑ์จากโฟมขาวมาเพิ่มมูลค่า (Upcycling)

ความสามารถในการหารายได้เพื่อการพึ่งพาตนเอง นับเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง มองถึงเรื่องการเพิ่มรายได้ตามภารกิจแต่ละด้าน การบริหารจัดการหน่วยวิสาหกิจ ได้แก่ เทคโนธานี สุรสัมมนาคาร ฟาร์มมหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล มทส. ให้มีผลประกอบการที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงด้านการเงินของมหาวิทยาลัย

ความสำเร็จและการยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ

มทส. มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพทางวิชาการ การวิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ส่งผลให้ได้รับการยอมรับและก้าวขึ้นเป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศ ดังจะเห็นได้จากผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยและของโลก โดยสถาบันจัดอันดับระดับโลกที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ อาทิ มทส. เป็นอันดับ 1 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี โดย THE Young University Rankings 2024 และอยู่ในอันดับ Top 10 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย จากการจัดอันดับ THE World University Rankings 2025, THE Asia University Rankings 2025, SCImago Institutions Rankings 2025 และ QS World University Rankings 2026

รวมถึงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ด้านการจัดการของเสีย (Waste) 3 ปีซ้อน และเป็นอันดับ 4 ของไทย จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวโลก 2024 การขับเคลื่อนเป้าหมาย SDGs มหาวิทยาลัยด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน อยู่ในอันดับ 11 ร่วมของไทย โดย THE University Impact Rankings 2025

ผลจากการจัดอันดับสะท้อนถึงการพัฒนาคุณภาพและศักยภาพของ มทส. ในมิติต่าง ๆ ตามเกณฑ์ที่ใช้ประเมิน ซึ่งส่งผลต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย สร้างความเชื่อมั่นให้นักเรียนและผู้ปกครองในการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อ ดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูงเข้ามาร่วมงาน รวมไปถึงความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จและความท้าทายในการพัฒนาสู่อนาคต

มทส. ดำเนินภารกิจมาครบ 35 ปี มีจุดแข็งที่สำคัญ เช่น การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มีระบบ “รวมบริการ ประสานภารกิจ” เป็นหัวใจหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความคล่องตัวสูง บุคลากรสายวิชาการมีคุณภาพสูง คณาจารย์กว่า 85% มีคุณวุฒิปริญญาเอก โครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์เครื่องมือทันสมัย พร้อมให้บริการในการเรียนการสอนและการทำวิจัย การเรียนการสอนที่เน้นการปฏิบัติ มีระบบ CWIE ที่เข้มแข็ง สามารถพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ทำให้ได้งานทำในเปอร์เซ็นต์ที่สูง ความเป็นเมืองมหาวิทยาลัย หรือ Residential University ที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมรองรับการเรียนรู้และการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบบนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่

สำหรับความท้าทายในการก้าวไปข้างหน้าสู่เป้าหมาย ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากประชาคม มทส. ด้วย SUT SPIRIT และค่านิยมของชาว มทส. คือ SUT PRIDE ได้แก่ P: Professionalism ทำงานอย่างมืออาชีพ R: Relationship ร่วมใจบริการ ประสานภารกิจ I: Integrity ยึดมั่นคุณธรรมและจรรยาบรรณ D: Delight มีความสุขกับงาน และ E: Entrepreneurship ร่วมสร้างคุณค่าและความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อน มทส. ไปสู่ “มหาวิทยาลัยแห่งนวัตกรรมและความยั่งยืน” อย่างแท้จริง

#มทส #SUT #มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี #35thSUT #SUTPRIDE #InnovatetheFuture