เพียง 25 ปี มทส. พลิกป่าเสื่อมโทรมสู่มหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับต้นของประเทศ

ศูนย์บรรณสาร

 

ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เปิดเผยว่า   มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย (Universitas Indonesia, UI)  ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวระดับโลก หรือ GreenMetric Ranking of World Universities 2014 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา ผ่านทางเว็บไซต์http://greenmetric.ui.ac.id/ranking/year/2014 โดยการจัดอันดับครั้งนี้ถือเป็นปีที่ 5 เพื่อเปรียบเทียบและแสดงให้เห็นถึงความพยายามของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วโลก ในการสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยสีเขียวที่มีความยั่งยืน (Sustainability) มีการจัดการมหาวิทยาลัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environment Friendly University)

 

ทั้งนี้ ผลของการจัดลำดับนี้ได้มาจากการคำนวณจากข้อมูลที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ส่งมาทาง online โดยข้อมูลแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลัก และมีการให้ค่าน้ำหนักด้านต่างๆ ดังนี้ สภาพแวดล้อม สถานที่ตั้ง และระบบสาธารณูปโภค (Setting and Infrastructure) 15 % การจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Energy and Climate Change) 21 % การจัดการขยะ (Waste Management) 18 % การใช้น้ำ (Water Usage) 10 % การจัดการระบบขนส่ง (Transportation) 18 % และการจัดการศึกษา (Education) 18 % ผลปรากฏว่า ในปีนี้มีมหาวิทยาลัยจำนวน 360 แห่งจาก 60 ประเทศ ทั้งในทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปเอเชีย และทวีปแอฟริกา เข้าร่วมจัดอันดับ ซึ่งมากกว่าปี 2013 ที่มีจำนวนเพียง 301 แห่ง โดยผลมหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับ 1 ของโลกได้แก่ University of Nottingham

สำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย พบว่า การจัดอันดับในครั้งนี้ มีมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวโลกอยู่จำนวน 11 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ ดีขึ้นจากเดิมซึ่งอยู่ในอันดับที่ 8 ของประเทศ ส่วนอันดับโลกถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 76 ของโลก

อธิการบดี มทส. กล่าวด้วยว่า การประกาศผลการจัดอันดับในครั้งนี้ พบว่า ปีนี้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญและตื่นตัวในการพัฒนาการเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวสูงมาก และคาดว่าจะมีมหาวิทยาลัยทั่วโลกเข้ามารับการจัดอันดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถือเป็นข่าวดีสำหรับมหาวิทยาลัยที่กำลังย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 แห่งการสถาปนา หรือ “ปีรัชดา มทส.” จากป่าเสื่อมโทรมสู่มหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับต้นๆ ของประเทศ และ 1 ใน 100 ของโลก ซึ่งมหาวิทยาลัยมีแนวคิดมหาวิทยาลัยสีเขียวมาตั้งแต่ก่อตั้ง โดยการประกาศนโยบาย“มหาวิทยาลัยเขียว-สะอาด (Green and Clean University)”



จากเดิมที่ตั้งของมหาวิทยาลัยกว่า 7,000 ไร่ เป็นป่าเสื่อมโทรม มทส. ใช้เวลา 25 ปี ในการปลูกป่าเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี กระทั่งปัจจุบันกลายเป็น “มหาวิทยาลัยในรีสอร์ท” ที่มีพื้นที่ป่าเขียวชอุ่ม มีการจัดวางผังและกันพื้นที่เป็นป่าอนุรักษ์ภายในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการมหาวิทยาลัยเขียว-สะอาดอย่างจริงจัง มีนวัตกรรมและต้นแบบด้านต่างๆ ที่ใช้ดำเนินงานภายในมหาวิทยาลัยและขยายผลสู่สังคมภายนอกมากมาย อาทิ ทางด้านสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์และการประหยัดพลังงาน มหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนรถประจำทางซึ่งวิ่งให้บริการรับส่งนักศึกษาและบุคลากรภายในเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด การนำน้ำเสียผ่านกระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100 % การมีเทคโนโลยีการกำจัดขยะแบบครบวงจร และเทคโนโลยีการผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติก ซึ่งสามารถบริหารจัดการกำจัดขยะภายในมหาวิทยาลัยได้แบบยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งต่อมาได้ขยายผลไปสู่หน่วยงานองค์กรทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก การรณรงค์ส่งเสริมให้บุคลากรและพนักงานของมหาวิทยาลัยลด ละ เลิกการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย การรณรงค์ ส่งเสริม รวมถึงออกมาตรการประหยัดอนุรักษ์น้ำและพลังงาน การจัดตั้งธนาคารวัสดุรีไซเคิล การจัดตั้งร้านศูนย์บาท การรณรงค์ให้ใช้จักรยานเดินทางระหว่างอาคารแทนการใช้รถยนต์ การณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าและภาชนะที่ย่อยสลายได้ภายในมหาวิทยาลัย     เป็นต้น เป็นความร่วมมือร่วมใจของนักศึกษาและบุคลากรทุกระดับในการนำนโยบายของมหาวิทยาลัยไปสู่การปฏิบัติโดยมีจุดหมายที่มุ่งจะเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่เขียว สะอาด และปราศจากมลพิษอย่างแท้จริง อธิการบดี มทส. กล่าว

     

 

 

ส่วนประชาสัมพันธ์ มทส.

20 มกราคม 2558

ข่าวโดย: มนัสวี บรรลือทรัพย์

 



ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง